cover-image

ดอกสว่าน หรือดอกเจาะ(drilling) มีกี่ชนิด เลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

เครื่องมือเจาะ(Drilling) เป็นอุปกรณ์สำคัญในงานวิศวกรรมที่ใช้ในการสร้างรูบนวัสดุต่าง ๆ เช่น โลหะ ไม้ หรือพลาสติก โดยการเลือกใช้เครื่องมือเจาะที่เหมาะสมกับลักษณะงานและวัสดุจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการทำงาน แบ่งได้หลากหลายแบบ 1.แบ่งตามกลไกการทำงาน • เครื่องเจาะแบบกระแทก (Percussion Drilling): ใช้แรงกระแทกในการเจาะ เหมาะสำหรับวัสดุแข็ง เช่น หินหรือคอนกรีต • เครื่องเจาะแบบหมุน (Rotary Drilling): ใช้การหมุนของดอกสว่านในการเจาะ เหมาะสำหรับวัสดุทั่วไป เช่น โลหะและไม้ 2. แบ่งตามลักษณะการใช้งาน • เครื่องเจาะตั้งโต๊ะ (Bench Drilling Machine): ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง • เครื่องเจาะตั้งพื้น (Pillar Drilling Machine): มีโครงสร้างแข็งแรง ใช้ในงานที่ต้องการแรงกดสูง • เครื่องเจาะแนวนอน (Horizontal Drilling Machine): ใช้สำหรับงานที่ต้องการเจาะในแนวนอน เช่น การเจาะท่อ • เครื่องเจาะ CNC (CNC Drilling Machine): ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากที่ต้องการความแม่นยำ 3. แบ่งตามแหล่งพลังงาน • เครื่องเจาะไฟฟ้า (Electric Drill): ใช้พลังงานไฟฟ้า เหมาะสำหรับงานทั่วไป • เครื่องเจาะลม (Pneumatic Drill): ใช้พลังงานลม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากประกายไฟ ส่วนประกอบหลักของเครื่องเจาะ ดอกสว่าน (Drill Bit): ส่วนที่สัมผัสกับวัสดุโดยตรง มีหลายรูปแบบตามลักษณะการใช้งาน หัวจับดอกสว่าน (Chuck): ใช้ยึดดอกสว่านให้แน่นกับเครื่องเจาะแกนหมุน (Spindle): ส่งแรงหมุนจากมอเตอร์ไปยังดอกสว่าน โต๊ะงาน (Work Table): รองรับชิ้นงานที่ต้องการเจาะ มอเตอร์ (Motor): ให้พลังงานในการหมุนดอกสว่าน แนวทางการเลือกเครื่องมือเจาะให้เหมาะสม 1. พิจารณาวัสดุที่ต้องการเจาะ: วัสดุต่าง ๆ ต้องการดอกสว่านและเครื่องเจาะที่เหมาะสม เช่น โลหะต้องใช้ดอกสว่านที่แข็งแรงและทนทาน 2. ขนาดและความลึกของรูที่ต้องการ: เลือกเครื่องเจาะที่สามารถปรับความลึกและขนาดได้ตามต้องการ 3. ปริมาณงาน: หากเป็นงานผลิตจำนวนมาก ควรเลือกเครื่องเจาะที่สามารถทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่เกิดความร้อนสูง 4. ความแม่นยำที่ต้องการ: งานที่ต้องการความแม่นยำสูงควรใช้เครื่องเจาะที่มีระบบควบคุมที่แม่นยำ เช่น CNC

เรียนรู้เพิ่มเติม