cover-image

ดอกต๊าปเกลียวมีกี่ประเภท และมีวิธีเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน

ดอกต๊าปเกลียว(Tapping) หรือ ดอกต๊าป คือเครื่องมือทำรูเกลียวของวัสดุ สิ่งที่ต้องคำนึงเมื่อจะเลือกใช้งานดอกต๊าป คือระยะพิตซ์ (pitch) เป็นระยะจากสันเกลียวหนึ่งไปถึงอีกสันเกลียวหนึ่ง ดอกต๊าปมีหลักการทำงานเพื่อกัดขึ้นรูปเกลียวในวัสดุที่ต้องการให้เกิดเกลียวขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นเกลียวแบบทะลุหรือเกลียวแบบรูตัน แบ่งตามรูปแบบของการทำงาน ได้ 2 แบบคือ ดอกต๊าปมือหรือ (Hand tap) กับ ดอกต๊าปที่ใช้งานกับเครื่องจักร (Machine tap) ถ้าแบ่งตามลักษณะรูปร่างของดอกต๊าปแบ่งได้ 5 ประเภท คือ 1. Straight Flute Tap คือดอกต๊าปเกลียวร่องตรง คายเศษออกทางด้านบนและด้านล่างของรู 2. Spiral Flute Tap ดอกต๊าปร่องเกลียว คายเศษออกทางด้านบนของรู 3.Spiral Point Tap ดอกต๊าปปลายร่องเฉียง คล้ายกับแบบดอกต๊าปเกลียวร่องตรง แต่แตกต่างที่ส่วนปลายจะมีร่องที่ช่วยดันเศษวัสดุไปข้างหน้า ทำให้เศษไม่คาที่รู เหมาะที่สุดในการใช้ความเร็วตัดสูง และลดแรงตัดได้ดี 4.ดอกต๊าปมือ หรือ Hand Tap เป็นดอกต๊าปพื้นฐาน เหมาะทำเกลียวด้วยมือ มีความแข็งมาก แบ่งย่อยเป็นอีก 3 ชนิด 4.1 ตัวเรียว (Taper Tap) ทำเกลียวเป็นตัวแรกหลังใช้ดอกสว่านเจาะรูแล้ว 4.2 ตัวตาม (Plug Tap) หลังจากใช้เกลียวตัวแรกแล้วถึงใช้เกลียวตัวตามต่อเพื่อให้มีขนาดตามที่ต้องการ ซึ่งมีความยาวช่วงที่เรียวน้อยกว่า เหมาะกับงานที่เป็นรูทะลุ (through hole) หรือถ้าชิ้นงานนั้นวัสดุไม่แข็งมากนัก สามารถใช้ตัวนี้ทำเกลียวแทนตัวแรกได้เลย 4.3 ตัวสุดท้าย (Bottoming Tap) ไม่มีส่วนที่เรียวเลย ใช้เป็นตัวสุดท้ายทำให้เกลียวสมบูรณ์ 5.ดอกต๊าปรีดเกลียว (Forming Tap) สร้างการรีดเกลียวด้วยการรีดหรืออัดขึ้นรูปวัสดุภายในรู กระบวนการทำงานจะไม่มีเศษเกิดขึ้นเลย เนื่องจากถูกอัดเข้าไปในเนื้องาน ซึ่งวัสดุชิ้นงานต้องไม่แข็งมาก เช่นวัสดุเหล็กคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Steel) หรืออลูมิเนียม (Aluminum)

เรียนรู้เพิ่มเติม